วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2563

ประวัติความเป็นมา วัดวังพิกุลวราราม




วัดวังพิกุลวรารามนี้เดิมเป็นวัดร้าง สร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น ยุคราชวงศ์สุพรรณภูมิ ราว พ.ศ. ๒๐๑๑ ในรัชกาลสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ (พ.ศ. ๒๐๑๑ - พ.ศ. ๒๐๓๑)  สันนิษฐานจากซากพระวิหารเดิม สำรวจจากอิฐที่ก่อกำแพงวิหาร มีตราครุฑจับนาคอยู่เป็นจำนวนมาก และเสาพระวิหารใช้ก้อนศิลาต่อกันทุกเสา และพบโถใส่อัฐิโบราณจำนวนมากยุคสุโขทัย  พระพุทธรูปศิลา พระพุทธรูปสัมฤทธิ์  สิงห์เชิงชายดินเผาเคลือบเขียนสีเป็นต้น    ที่น่าสังเกตคือตลอดระยะทางลำน้ำแคววังทองระยะห่างประมาณ ๕๐๐ เมตรบ้าง ๑-๒ กิโลเมตรบ้าง จะมีซากวัดร้างอยู่ตลอดแนว ระยะทางประมาณ ๓๐ กิโลเมตร 

ต่อมา พ.ศ. ๒๔๓๑ พระอาจารย์น่วมธุดงค์มาพบวัดนี้ แล้วชักชวนชาวบ้านให้ช่วยกันบูรณะวัดขึ้นมาใหม่ ชาวบ้านจึงเรียกนามวัดให้สอดคล้องกับชื่อหมู่บ้านว่า “วัดวังพิกุล” ต่อมาจึงมาต่อสร้อยภายหลังว่า “วัดวังพิกุลวราราม”  ปี พ.ศ. ๒๕๓๕  พระอธิการสำรวย สุนฺทรธมฺโม  ได้ซื้อที่ดินเพิ่มและสร้างอุโบสถ จนท่านมรณภาพในวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๔๒

ความสำคัญของพื้นที่วัดวังพิกุลวราราม  สมัยสมเด็จพระเนศวรมหาราชและสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ข้อมูลจาก...พันเอกวิษณุ วิจิตรพงษา ผบ.ศคร. บชร.๓

อดีตพื้นที่วัดวังพิกุลวรารามเป็นเส้นทางเดินทัพโบราณในการฝึกกองกำลังกองโจร ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเนศวรมหาราช (ฝึกกำลังกองโจรที่บ้านมุงดอนชุมพู และวัดโบสถ์)

๑. พื้นที่วัดวังพิกุลวรารามเป็นสถานที่สำคัญในการสะสมเสบียงจากบ้านมุงดอนชมพู มาพักที่วัดวังพิกุลวราราม แล้วส่งไปเมืองพิษณุโลก ครั้งสงครามพม่าปี พุทธศักราช ๒๓๑๘ อะแซหวุ่นกี้เป็นแม่ทัพใหญ่มาตีเมืองพิษณุโลก 

๒. เป็นการวางแผนการรบของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โดยพระองค์ให้กองทัพไทยตั้งค่ายไว้ที่บริเวณบ้านปากพิง และมาตั้งค่ายไว้ที่บ้านวังพิกุลด้วย เพื่อลวงให้อะแซหวุ่นกี้แยกกองทัพเป็นสองทาง 

๓. พื้นที่วัดวังพิกุลวรารามเป็นที่พักกองทัพของเจ้าพระยาจักรีและเจ้าพระยาสุรสีห์ เมื่อครั้งถอนทัพต้อนชาวเมืองออกจากเมืองพิษณุโลก ไปบ้านมุงดอนชมพู ณ วันศุกร์ เดือน๔ แรม ๑๑ ค่ำ พุทธศักราช ๒๓๑๘ อะแซหวุ่นกี้พูดยกย่องทหารไทยประมาณว่าพลาดโอกาสครั้งนี้ไป จะหาโอกาสเช่นนี้อีกในภายภาคหน้านั้นยากเสียแล้ว 

๔. พื้นที่วัดวังพิกุลวรารามนี้เป็นชุมชนโบราณโดยมีชาวจีนอยู่อาศัยจำนวนมาก  ซึ่งอาจเป็นกองกำลังลับเพื่อสอดแนมกองกำลังข้าศึก     ปัจจุบันยังมีเชื้อสายชาวจีนอยู่ครั้งแต่อดีตเช่น ตระกูลแซ่ตียว ตระกูลแซ่ด่าน ตระกูลแซ่ห่าน ตระกูลแซ่คู เป็นต้น ชุมชนเชื้อสายจีนนี้อาจเป็นกองกำลังทหารของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่เหลืออยู่